[Trip] ภูกระดึง : Maple Project

สวัสดีครับบบบบบ….ในโอกาสนี้ ก็ขอสวัสดีปีใหม่ด้วยเลย

HNY2013

ปีใหม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างรึเปล่าเอ่ย

ผมไม่ได้ไปเที่ยวไหนครับ เพราะอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปเที่ยวมา

ทริปล่าสุดนี้ ได้ไปขึ้นภูกระดึงกับเพื่อน ๆ ครับ

ระหว่างวันที่ 20 – 23 ธ.ค. 2555 ที่ผ่านมา

โดยในทริปนี้เราจะไปล่าใบเมเปิ้ลกัน (ใช้คำว่า “ล่า” เลยหรอ) มีผู้ร่วมเดินทางรวมผมทั้งสิ้น 6 คน เป็นทริปเล็ก ๆ ครับ

เราออกเดินทางจากหมอชิต คืนวันที่ 19 เวลา 22.35 น.

ถึงผานกเค้าประมาณ 6 โมงเช้านิด ๆ หนาวมาก ๆ ครับ หนาวจนสั่นเลยทีเดียว (หนาวตั้งแต่บนรถแล้วครับ เปิดแอร์ยังกะจะเลี้ยงเพนกวิ้น)

ก็จัดการแปรงฟัน ล้างหน้า แล้วก็กินข้าวเช้าที่ร้าน เจ๊กิมครับ (ใครจะขึ้นภูกระดึง ก็ต้องมาลงรถที่นี่แหละ)

กับข้าวก็ไม่แพงครับ 30-40 บาท อร่อยด้วย

เมื่อพร้อมแล้ว เราก็นั่งรถ 2 แถวจากหน้าร้านเจ๊กิมไปยังตีนภู (คนละ 30 หรือ 35 นี่แหละ ลืม -*-)

อากาศหนาว ๆ ลมเย็น ๆ บรื๋อ~

มีอยู่ช่วงหนึ่งเกือบถึงตีนภู หมอกเยอะมากกกกก

แต่พอจะถึงตีนภู หมอกหายซะงั้น -*-

เมื่อไปถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว ก็ไปติดต่อเรื่องที่พัก (ที่เราจองไว้ล่วงหน้าแล้ว) และฝากของกับพวกลูกหาบครับ

โดยค่าหาบนี่ เขาจะคิดกิโลละ 30 บาทครับ ใครไม่อยากเสียเงินก็แบกขึ้นไปเองครับ เขาไม่บังคับ

แต่ผมขอใช้บริการลูกหาบครับ ขอเดินไปอย่างชิล ๆ ละกัน

ประมาณ 8 โมงนิด ๆ เราก็พร้อมที่จะขึ้นภูกันแล้ว

ภาพจาก http://www.tourdoi.com/doi/phukadung/map.htm

ก่อนขึ้นเขาจะให้ซื้อตั๋วก่อนครับ ปกติก็ 40 บาท แต่ทำไมพวกผมไปซื้อ เขาเอาตั๋วเด็กราคา 20 บาทให้ ก็ไม่รู้ -*-

DSC_0019

เราก็ค่อย ๆ เดินกันครับ ไม่เร่งรีบ เดินไป ถ่ายรูปกันไป

ถึงซำแฮกได้อย่างไม่อยากเย็น (แต่ก็เริ่มเหนื่อยนิดหน่อย) ก็เจอเหล่าแม่ค้า ออกมาเรียกให้เราซื้อน้ำกันครับ

ไอ้เราก็ซื้อแบบกระจายรายได้ครับ คือร้านแรก เราจะไม่ซื้อครับ เราจะซื้อร้านหลัง ๆ แล้วซื้อคนละร้านครับ

413822_543641598979820_1777278492_o

เราก็ค่อย ๆ เดินกันไป ถ่ายรูปกันไปเรื่อย ๆ ครับ

ระหว่างซำ ถ้ามีร้านขายของ เราก็มักจะหยุดแวะซื้อน้ำกินกัน เพื่อพักเหนื่อย และเติมพลังงานครับ

ราคาก็แพงกว่าข้างล่างนิดหน่อย (ประมาณเท่านึงได้ น้ำ 25-35 บาท) แต่ก็ต้องยอมซื้อครับ เข้าใจว่าการขนของขึ้นมาขาย มันเหนื่อย (ไอ้เราเดินตัวเปล่ายังเหนื่อยกันเลย)

และถึงจุดพักสุดท้ายที่ซำแคร่ เราก็เติมพลังกันเต็มที่ ก่อนจะเจอเส้นทางสุดหฤโหด (เห็นคุณยายคนนึงเดินลงมาจากภูด้วย สุดยอดมาก ๆ)

ประมาณว่าช่วงนี้ เราเก็บกล้องเลยครับ ไม่ถ่งไม่ถ่ายมันแล้ว ต้องใช้มือในการตะกายภูขึ้นไปครับ (ขนาดนั้นเลย…)

พอมาถึงหลังแปร ก็จะเจอป้าย “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง”

473478_543271149016865_542260251_o

สภาพร่อแร่มาก แต่ละคนหอบลิ้นห้อย หลังจากเดินทางมา 5.5 กิโลเมตร ก็นั่งพัก ถ่ายรูปวิว สวยมากครับ

เมื่อหายเหนื่อยแล้ว เราก็เดินต่ออีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว วังกวาง

การเดินช่วงนี้ สบาย ๆ ครับ เป็นทางราบ 2 ข้างทางเป็นป่าสน

ถึงศูนย์บริการฯ ประมาณ บ่าย 3 กว่า ๆ

แถว ๆ นี้ ก็มีต้นเมเปิ้ลปลูกอยู่เต็มเลย

413806_543652015645445_91968012_o

เย้…บรรลุวัตถุประสงค์ของทริปนี้แล้ว กลับได้

…จะบ้าหรอ…

จากนั้นก็ไปติดต่อที่พัก รอรับกระเป๋า แต่กระเป๋าก็ยังไม่มา เราเลยกลับที่พักไปนอนรอ

ที่พักของเรา เราจองเป็นห้องไว้ครับ ห้องนึงนอนได้ 6 คนพอดี

ประมาณ 4 โมง กระเป๋าก็มาถึง เราก็เอากระเป๋าไปเก็บที่พัก ตอนแรกว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกกัน แต่สภาพตอนนี้แต่ละคน ไม่ไหวแล้ว

เราเลยไปหาอะไรกิน ราคาข้าว ก็จานละ 60-70 บาท เมื่อเทียบกับราคาอาหารที่กรุงเทพฯ ก็ถือว่าโอเคเลย เยอะ แล้วก็อร่อย (แถมยังขอชาร์จไฟมือถือได้ฟรีด้วย) สำหรับน้ำ บนนี้เขาไม่ค่อยนิยมแช่เย็นกัน ส่วนใหญ่เอาออกมาวางข้างนอกกัน ซึ่ง น้ำมันก็เย็นเหมือนกับเอาเข้าตู้เย็นใหม่ ๆ เลยล่ะ (เพื่อนบอกว่า เย็นกว่าน้ำในตู้แช่ 7-11 ซะอีก)

ข้าวไข่ระเบิด จานละ 70 บาท

กินเสร็จแล้วก็อาบน้ำ (น้ำเย็นมากกกกก ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น)

แล้วก็ถึงเวลาเรียนวิชานับเลขกัน พอเล่นเสร็จประมาณ 2 ทุ่มกว่า เราก็ออกไปหาอะไรกินกันอีกรอบ ก็กินไข่กระทะกัน

แล้วก็กลับมานอนประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ (นอนก่อนดับไฟอีก)

คือที่นี่เขาจะจ่ายไฟ 6 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม หลังจาก 4 ทุ่มเขาก็จะดับไฟ (แต่ตามห้องน้ำก็ยังมีไฟตลอดทั้งคืน)

 

เช้าวันที่ 21 ธ.ค. เราตื่นกันตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง

หนาวโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรร

เช้านี้ เราจะไปดูอาทิตย์ขึ้น ที่ผานกแอ่นครับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่พาเดินไปครับ นัดกันที่ศูนย์บริการฯ ตี 5 เท่าที่ดูเทอโมมิเตอร์ในศูนย์บริการฯ ประมาณ 15 องศา แต่ข้างในมันอุ่นกว่าข้างนอกเยอะ ข้างนอกน่าจะประมาณ 10 องศาได้ ควันออกปากเลย

เดินทางประมาณโลกว่า ๆ ก็ถึงที่หมายเราครับ

เดินมาชิล ๆ ครับ ทางราบไม่มีอะไร

เราก็รอ ร้อ รอ ระหว่างรอเราก็ถ่ายรูปแสงไฟของเมืองข้างล่างครับ สวยมาก

จนประมาณ 6 โมงครึ่ง ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ก็ยังไม่ขึ้น เราก็รอกันต่อไป

IMG_0145
ณ ผานกแอ่น

ระหว่างรอ ก็ซื้อโอวัลตินกินกัน แก้วเล็ก ๆ 25 บาท ( 1 ซอง) เป็นอย่างเดียวที่ให้ความอบอุ่นเราได้ในขณะนั้น

จนดวงอาทิตย์ขึ้น เราก็รัวชัตเตอร์ถ่ายรูปดวงอาทิตย์ที่เป็นพระเอกของงานนี้

IMG_0186

เมื่อเราจุใจกับการถ่ายวิวแล้ว เราก็มาถ่ายรูปกันเองบ้าง โดยมีดวงอาทิตย์เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก

IMG_0207
บรึ้มเมืองเลย

ประมาณ 7 โมงกว่า ๆ เราก็เดินทากลับ โดยเราเลือกที่จะเดินอีกทาง เพื่อผ่านลานพระแก้ว ซึ่งเป็นลานหิน แล้วมีพระพุทธรูปตั้งอยู่

พอกลับมาถึงศูนย์บิการฯ เราก็หาข้าวเช้ากิน แล้วก็ไปเอาหมูทอดและข้าวเหนียว ที่เราได้จองไว้เมื่อคืน (จะไม่ขอพูดถึงเรื่องหมูทอดนี้ หึ)

สาเหตุที่ต้องซื้ออาหารไปด้วย เพราะเส้นทางที่เราจะเดินในวันนี้ มันไม่มีร้านอาหารระหว่างทางเลย (ไม่มีอะไรขายเลยจริง ๆ T^T)

พอเราเตรียมตัวเสร็จ ก็สายพอสมควร เราก็ไปที่น้ำตกถ้ำใหญ่ เป็นจุดที่มีเมเปิ้ลเยอะสุดแล้ว

IMG_0254

IMG_0274

เนื่องด้วยเริ่มเข้าฤดูแล้งแล้ว น้ำเลยค่อนข้างเหลือน้อย เนื่องด้วยได้เวลากินข้าวเที่ยงแล้ว เราเลยกินข้าวกันบริเวณน้ำตกนั่นเลย

ตอนแรกกะจะเข้าไปบริเวณป่าปิด แต่มันต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ แล้วก็ต้องมี 10 คนขึ้นไป เขาถึงจะพาเข้าไป เรามีกันแค่ 6 คน เลยไม่ได้เข้าไป (ถ้าเข้าไปจริง ๆ คงไม่ทัน)

จากนั้น เราก็เดินต่อไปที่สระอโนดาด ร้อนมากครับ เพราะเส้นทางนี้ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้า สลับกับป่าสน

ที่สำคัญ…น้ำหมดครับ เตรียมมาแค่คนละขวดเล็กเท่านั้น ไม่นึกว่าจะไม่มีอะไรขายขนาดนี้

แต่ระหว่างทาง เราก็เดินร้องเพลง ถ่ายรูปเล่นกันมาเรื่อย ๆ (แต่ละเพลง เก่า ๆ ทั้งนั้นนนน)

IMG_0275

จากสระอโนดาด เราก็ไปต่อกันที่น้ำตกถ้ำสอเหนือ และไปจบที่ผาหล่มสัก

ไปถึงผาหล่มสักประมาณบ่าย 4 โมง ก็ซื้อของกิน หลังจากที่อดอยากมานาน (ครึ่งวัน เกือบ 10 กิโล)

กินเสร็จ ก็ไปนั่งรอ นอนรอดูอาทิตย์ตก

ใครมาขึ้นภูกระดึง แล้วไม่ได้มาผาหล่มสัก ถือว่ายังมาไม่ถึงภูกระดึง

เพราะที่นี่มีชะง่อนหิน และต้นสน ที่ถือว่าเป็น Landmark สำคัญ ใครมาจะต้องถ่ายรูปมุมนี้ (ใครเป็นคนกำหนดฟระ)

IMG_0289
ต้องมุมนี้เท่านั้น

ระหว่างที่เรารอ เราก็เล่นกีตาร์ และร้องเพลงกัน

ลืมบอกไปว่า วันนี้เราไปเช่ากีตาร์มาแต่เช้า ค่าเช่าก็ วันละ 150 บาท แต่เส้นทางที่เดินมาแสนหฤโหด เลยไม่ค่อยได้เล่น มาเล่นจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนรอนี่แหละ

เล่นไปได้ 3 เพลง ก็ได้เวลาอาทิตย์ตกพอดี เลยหยุดเล่น แล้วไปถ่ายรูปกัน

ถ่ายรูปกันจนอาทิตย์ลับขอบฟ้า มืดตึ๊ดตื๋อกันเลยทีเดียว (ส่วนใหญ่เขาจะทยอยกลับกันไปก่อนที่จะมืด)

IMG_0311

278653_543655082311805_2030311046_o

เราก็เลยได้เดินกลับกันมืด ๆ งั้นแหละ แต่เราไม่ได้กลับทางเดิม เรากลับทาง ริมผา

ยังดีที่มีคนอื่นไปกับเราด้วย เป็นครอบครัวนึงครับ มี พ่อ (เราเรียกพี่คนนี้กันว่า “พี่โหด” หน้าตาพี่แกโหดจริง ๆ แต่พี่แกรักลูกพี่แกมากอ่ะ เท่าที่เห็น) แม่ ลูก

ก็เดิน ๆ กันไปได้สักพักหนึ่ง ก็เจออีกกลุ่มหนึ่งหยุดรออยู่ เขาบอกว่าได้ยินเสียงหมาจิ้งจอก เจ้าหน้าที่เลยบอกให้เขาหยุดรอก่อน

เดินไปได้อีกสักพัก เกือบถึงผาเหยียบเมฆ คราวนี้ได้ยินเสียงหมาจิ้งจอกชัดเลย มันทั้งเห่า ทั้งหอน ใกล้ ๆ เลย คาดว่าจะเป็นฝูงใหญ่

แต่ดีว่าตอนนี้เราอยู่ใกล้ร้านค้าแล้ว เราเลยรีบจ้ำเข้าไป

มาถึงร้าน พ่อค้าก็เล่า(โม้)ให้ฟัง ว่าหมาจิ้งจอกพวกนี้ไม่น่ากลัวอะไรหรอก มันไม่ทำอะไร แต่ถ้าเป็นหมาไนโดนกัดไปแล้ว แล้วก็เล่าเรื่องช้างป่าให้ฟัง…ยิ่งฟัง ยิ่งเชื่อว่า “ช้างเป็นสัตว์กินเลือด” จริง ๆ โหดเกิ๊นนนนนน

จากนั้นเราก็จ้ำ ๆๆๆๆๆ กันมาเรื่อย ๆ จนถึงผาหมากดูก เราก็นั่งพักกันอีกรอบ แต่ร้านค้าปิดแล้ว เราเลยไม่ได้ซื้ออะไรกินอีก

พักสักครู่ รอลูกพี่หนวดหายเหนื่อย เราก็ลุยต่อ

ไปถึงศูนย์บริการฯประมาณ 3 ทุ่มนิด ๆ ระยะทาง 10 กิโล ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงกว่า พี่โหดจะรีบไปไหนคร้าบบบบบ

เราก็แวะร้านอาหารก่อนเลย กลัว 4 ทุ่มแล้วเขาจะดับไฟ

กินเสร็จก็กลับที่พัก อาบน้ำ…โคตรหนาวครับ แต่ยังไม่เท่าตอนอยู่ภูหลวงหรอก อันนั้นหนาวกว่าเยอะ

แล้วเราก็เข้านอนกันเลย เหนื่อยมาก ๆ (จะเช่ากีตาร์มาทำไมวะเนี่ย อ่อ…เช่ามาเป็นดัมเบล = =)

 

วันสุดท้าย (ที่จะอยู่บนภู) 22 ธ.ค.

วันนี้เราไม่รีบตื่นไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น (หมดแรง) เราเลยตื่นกันสายซะ 7-8 โมง

แปรงฟัน ล้างหน้า แล้วก็จัดการเก็บของ (แหม่…ไม่อาบน้ำหรอกครับ หนาวครับ) แล้วก็เอากระเป๋าไปส่งให้ลูกหาบ

DSC_0156
กวางเจ้าถิ่น

(เดี๋ยวของลงไปช้า ลงไปถึงแล้วจะต้องเสียเวลารอ)

แล้วเราก็ไปหาข้าวกิน กินเสร็จ ก็มาถ่ายคลิปบ้าบอกัน

จากนั้นก็เดินไปเก็บภาพที่ผาหมากดูกก่อน เพราะถ้ากลับทางนี้ มันจะต่างกับทางที่มาประมาณ 1 กิโล เราเลยเลือกเดินทางใหม่

415340_543312142346099_1691227150_o
ณ ผาหมากดูก

กว่าจะเก็บภาพเสร็จก็ประมาณ 11 โมง แล้วกว่าจะไปถึงหลังแปร ก็เที่ยง ๆ พอดี

อ้อ…ลืมบอกไปว่า บนภูมีบริการให้เช่าจักรยานปั่นด้วยครับ แต่เราเลือกที่จะไม่เช่าครับ เพราะต้องการเดินกันให้เต็มที่ แล้วยิ่งเดิน ก็ยิ่งเห็นเส้นทางว่า…มันไม่ควรเอาจักรยานมาเป็นภาระเลยจริง ๆ เส้นทางเป็นทรายซะเยอะ เอาจักรยานมา ต้องลงเข็นสถานเดียว

ขาลงภู ก็เป็นวันเสาร์ คนขึ้นภูก็ค่อนข้างเยอะ

ยิ่งลง เราก็ยิ่งทึ่ง ว่าเราขึ้นมาได้ยังไงกัน มันชันมากเลย

ใครว่าขาลงสบายกว่า….ไม่จริงนะครับ เหนื่อยกว่าอีก มันต้องคอยเบรกไม่ให้วิ่งเตลิดแหกโค้งนี่แหละ

แม้ว่าจะเป็นขาลง เราก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อของกินตามจุดพัก

ตลอดการเดินทาง เจอแต่พ่อค้า แม่ค้า อัธยาศัยดี น่ารักกันทุกคน

พอลงมาถึงตีนภู ก็เอากระเป๋าและจ่ายเงิน แล้วก็ไปขึ้นรถสองแถว

คราวนี้เรามาลงรถที่ท่ารถ เพื่อจะต่อรถเข้าเมือง

รถที่จะเข้าเมือง เป็นรถ ป.2 เลย-ขอนแก่น ราคาตั๋วคนละ…..(ลืมแล้ว แต่ไม่แพงหรอก)

นั่งมาเรื่อย ๆ ก็มาถึง บขส. ซึ่งพ่อมารอรับอยู่แล้ว

ขนของขึ้นรถ แล้วก็จองตั๋วรถขากลับ จากนั้นก็ให้พอพาไปส่งแถว ๆ วงเวียน

พาเพื่อน ๆ ไปกินโรตี ที่ร้าน นายหัว โรตีชาชัก หน้าโรงหนังอมรินทร์ (โรงหนังเพียงแห่งเดียวในตัวเมืองเลย)

กินโรตีกรอบ พิเศษ 2 แผ่น แล้วก็ โรตีกล้วยหอม ช็อกโกแลตอีกแผ่น กินเร็วราวแร้งลง

โรตีกล้วยหอม ช็อกโกแลต

จากนั้น ก็เดินกันอีกนิดหน่อยไปสวนสาธารณะ กะจะพาไปให้อาหารปลา แต่…คนขายหนีกลับบ้านหมดแล้ว 6 โมงนิด ๆ เองนะ คนหายหมดสวนแล้วอ่ะ

ก็เดินตามทางริมสระไปเรื่อย ๆ ไปถนนคนเดิน ไปกินนมสดร้าน กันเองนมสด

เด็กเยอะเป็นปกติ แต่ก็ยังดีว่ารอไม่นาน

จากนั้น…ก็กลับไปซัดหมูกระทะมือใหญ่ที่บ้าน

ซื้อหมูมาประมาณ 4 กิโล (แต่กินจริง ๆ แค่ 3 กิโล) แล้วยังมีซี่โครงหมูย่าง และสามชั้นย่าง อีก 6 กิโล

แล้วก็ยังทำข้าวจี่กินกันอีก มันทำลำบากจริง ๆ กว่าจะได้แต่ละอัน

กินกันจนจุก

แต่ก็ยังเหลือมากินต่ออีกในวันรุ่งขึ้น

 

วันสุดท้าย 23 ธ.ค.2555

เราตื่นกันสาย ๆ เพราะไม่เร่งรีบไปไหน อาบน้ำ กินข้าว ก็ยังเหลือเวลา เลยมานั่งเล่น ถ่ายคลิปอำลา ก่อนที่จะให้พ่อไปส่งที่บขส. เพื่อนั่งรถรอบเที่ยงครึ่งกลับเข้าเมืองหลวง

 

สำหรับทริปนี้…งบบานครับ ตอนแรกคิดว่าจะหนักค่ารถ แต่เอาไปเอามา หนักค่ากินซะมากกว่า ก็อยู่บนภูเล่นกินเอา ๆ ค่ากินก็ไม่ใช่น้อย ๆ แต่ก็ต้องกินแหละครับ มันหิวนี่นา ยิ่งต้องใช้แรง ยิ่งต้องกิน เดี๋ยวหมดแรงกันก่อน

 

หากมีโอกาส ก็อยากขึ้นภูกระดึงอีก หรือไม่ก็ไปขึ้นภูที่โหดกว่านี้ เช่น ภูสอยดาว เป็นต้น สนุกดีครับ ชอบ ๆ

460909_543678178976162_1187423031_o

ปล.ขอบคุณภาพจาก อั้ม บุ๋ม และ แจ็ค ไว้ ณ ที่นี้ด้วยฮัฟว์

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.