กลับมาต่อกันนะครับ
จาก Entry ที่แล้ว ที่เมื่อคืน (30 พ.ย.) นอนอยู่ที่ภูเรือรีสอร์ท
เช้าวันนี้ (1 ธ.ค.) ก็ตื่นสายนิดหน่อย ประมาณ 8 โมงได้
วันนี้ไม่มีกิจกรรมดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า แต่ต้องตื่นก่อน 9 โมง เพราะที่รีสอร์ทมีอาหารเช้าบริการถึง 9 โมงเท่านั้น
หลังจากกินข้าวกันเสร็จ เพื่อน ๆ ก็ลงไปถ่ายรูปกันเล่นที่น้ำตกด้านหลังรีสอร์ท
สำหรับแขกที่มาพักที่นี่ไม่ต้องกลัวว่าจะมาแล้วไม่เห็นน้ำตกนะครับ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
ถ่ายรูปเล่นกันได้สักพักก็เข้าห้องไปเก็บของรอพ่อมารับ นัดพ่อไว้ประมาณ 10 โมง
ขากลับคราวนี้เพื่อน ๆ ชินกลับการนั่งรถแล้ว บางคนสามารถนอนฟุบกับกระเป๋าได้เลย ไม่ต้องคอยเกร็งตัวรับโค้ง
อาจเป็นเพราะพ่อเอาตาข่ายมาคลุมกระเป๋า ทำให้พวกเรามีที่จับด้วย
ก่อนไปเที่ยวต่อ เราก็แวะพักกินข้าวเที่ยงที่อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง
นั่งกินข้าวกันในแพกลางน้ำ
อากาศเย็นสบาย ลมพัดเฉื่อย ๆ
อาหารก็อร่อย
กินเสร็จก็ให้เขามาลากแพกลับเข้าฝั่ง
จากนั้นก็เอาสัมภาระกลับมาเก็บที่้บ้าน เอาของสำหรับนอน 1 คืนไปพอ
ที่ที่เราจะไปเที่ยวกันต่อคือ…เชียงคาน
คราวนี้พ่อพาไปทางอ้อม ที่เร็วกว่าทางตรง (เอ๊ะยังไง)
ทางค่อนข้างตรง ขรุขระบ้าง ฝุ่นบ้าง แต่ไม่ค่อยมีรถ และไม่มีไฟแดง เร็วกว่าไปทางปกติอีก
ไปถึงเชียงคานประมาณบ่าย 3 กว่า ๆ ได้
ก็เอาของไปเก็บที่พักกันก่อน
ที่พักคราวนี้คือ โรงแรมพูลสวัสดิ์ ซึ่งเป็นโรงแรมไม้แห่งแรกของเชียงคาน อยู่ซอย 9
มีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง เราเลยเหมาทั้งโรงแรมกันเลย
เป็นโรงแรมเก่าก็จริง แต่เขาก็ renovate ใหม่
หลังจากเก็บของเสร็จ ตอนแรกกะว่าจะไปเล่น BB Gun กัน แต่มันยังไม่ถึงเวลาเปิด (จันทร์ – ศุกร์ เขาเปิด 5 – 6 โมงเย็น)
พ่อเลยพาไปวัดพระพุทธภูควายเงิน
เป็นวัดที่มีกระต่ายเยอะมากกกกก แถมเป็นมิตรกับคน สามารถเล่นกับกระต่ายได้ด้วย (ทำไมไปคราวก่อนเรียกมันไม่เห็นมาวะ)
ตอนแรกพ่อว่าจะไปกราบหลวงตาเจ้าอาวาส แต่ท่านมีแขกอยู่ และท่าทางว่าจะไม่คุยเสร็จง่าย ๆ เลยกลับกันก่อน
แล้วเราก็มาแวะกันที่สนาม BB Gun อยู่ซอยเทศบาลเชียงคาน
ขับรถเข้ามาสักครู่ ก็จะเห็นป้ายสนามอยู่ทางซ้าย
สนามนี้เล่นได้ทั้ง BB Gun ทั้ง Paint Ball
ตอนแรกกะว่าจะเล่น Paint Ball กัน เพราะคิดว่ามันน่าจะเจ็บน้อยกว่า
แต่พี่ที่สนามบอกว่า Paint Ball เจ็บกว่า เราเลยเล่น BB Gun แทน
มีชุดให้ 10 ชุด แต่ BB Gun มีปืนแค่ 9 กระบอก
ผมก็เล่นเกมแรก สนุกดี ทำเพื่อนเจ็บไปหลายคน
ขอโทษกร๊าบบบบ
จากนั้นก็เปลี่ยนให้ผูหญิงเล่นมั่ง แต่เกมหลังนี่ฟ้าค่อนข้างจะมืดแล้ว มองไม่ค่อยจะเห็นเท่าไร
(ตอนผมเล่นเอง ก็ยังมองไม่ค่อยเห็นเลย เล็งก็ไม่ได้แว่นหนาเกิน ยิงมั่ว ๆ ไปงั้นแหละ)
แต่รู้ว่าผู้หญิงก็เล่นโหดเหมือนกัน
เดี๋ยววันหน้าต้องลองไปหาสนาม BB Gun อยู่กรุงเทพเล่นมั่งแล้ว
สรุปค่าเสียหาย
ค่าชุดคนละ 100 ค่าเล่น ผู้ชายคนละ 100 ผู้หญิง 50 บาท
จากนั้นพ่อก็มาส่งที่ถนนริมโขง
เราก็เดินเล่นกัน ถ่ายรูป ดูสินค้า
แล้วก็แวะกินข้าวเย็นที่โรงแรมสุขสมบูรณ์
จากนั้นก็ไปกินขนมปังสังขยากันต่อที่ร้าน สังขยาคุณแม่ ข้างที่พักของเรา
กินเสร็จ ก็เดินกันต่อ บางคนก็หาซื้อของกิน บางคนก็หาซื้อของฝาก
แต่ผมพาเพื่อนตะเวนถ่ายรูปตามจุดบังคับต่าง ๆ ของเชียงคาน
จุดบังคับ คือ จุดที่คนที่มาเชียงคานทุกคน มาแล้วต้องถ่ายรูปกลับไป (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม)
เดินหัวถนน – ท้ายถนน ประมาณ 2 รอบได้ ก็กลับเข้าที่พัก ประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ
ร้านค้าต่าง ๆ ก็ปิดกันไปพอสมควรแล้ว ไม่มีอะไรให้ดูเลยต้องกลับ
กลับมาที่พัก ก็เห็นเพื่อนบางคนนั่งเล่น สามก๊กอยู่ระเบียงหน้าโรงแรม
แต่ไม่ได้เล่นกันเสียงดังเหมือนปกติ พูดกันแบบกระซิบ ก็แปลกดี
คืนนี้ก็ต้องรีบนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่เช้า…
สวัสดี…